[Review] รีวิวเกม The Last of Us: Part II

The Last of Us: Part II เป็นเรื่องราวของจิตใจและ Naughty Dog ก็รู้ถึงจุดเด่นเรื่องนี้ดี นี่เป็นเรื่องราวที่สานต่อจากเกมภาคแรก และยังคงเป็นเกมสไตล์ Cinematic ซึ่งเป็นของถนัดของผู้พัฒนา ที่เราได้พบเจอมาตั้งแต่เกม Uncharted 2: Among Thieves ในภาคนี้ The Last of Us ได้ใส่ระบบการเล่นเข้ามามากมาย ทำให้ตัวเกมดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

The Last of Us: Part II ไม่ใช่เกม Open World การผจญภัยของ Ellie จะพาเราไปสู่เมือง Seattle ที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันโดยนักออกแบบมืออาชีพหลายคน สิ่งก่อสร้างแต่ละแห่งจะมีเรื่องราวของตัวมันเอง หลังจากเหตการณ์การล้มสลายของ Fire fly ได้เกิดกลุ่มใหม่ขึ้นมาสองกลุ่ม คือ Washington Liberation Front ที่มีความเข้มแข็งและระเบียบวินัย และ Seraphites หรือ Scars ที่เป็นเหมือนกลุ่มทางศาสนา

เราได้รับบทเป็น Ellie ที่ตอนนี้ได้โตเป็นสาวแล้วและเป็นสมาชิกในกลุ่ม Jackson ที่หลบภัยในโลกที่ตายไปแล้ว เนื้อเรื่องมีความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากความซับซ้อนเพื่อให้มันออกมายอดเยี่ยม ไม่มีใครเป็นคนดีหรือชั่วในเกมแห่งนี้ มีแต่คนเทา ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตีความตัวละครยังไง มันยังคงเป็นโลกของความรุนแรงแต่ก็ยังมีสถานที่ที่ทำให้มีความสุขอยู่บ้าง

ในการต่อสู้ การย่องเข้าไปหลังศัตรู ล็อกคอพวกมันและเอามีดแทง คือวิธีการต่อสู้ที่ดีที่สุดสำหรับเกมนี้ เพราะบางครั้งการเผชิญกับศัตรูแบบซึ่ง ๆ หน้า ก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีสักเท่าไร ในตอนแรกเราจะมีอุปกรณ์เริ่มต้นที่สำคัญ ๆ ได้แก่ เป้สะพาย Medical Kits และวัตถุในการทำระเบิด ซึ่งเราสามารถหาแอลกอฮอลผ้าขี้ริ้วมาทำเป็นชุดประถมพยาบาลเบื้องต้นได้ การหาของมาคราฟนั้นง่ายเพราะมันจะมีให้เราอยู่ทั่วทุกมุมเมือง

ทีมอาร์ตของ Naughty Dog นับว่าเป็นหนึ่งในทีมงานที่ดีสุดในอุตสาหกรรมเกม ทั้งการตีแผ่ศาสนา ความน่ากลัว และความงดงามของตัวเกมมีชั้นเชิงอยู่ในทุกจุด รวมถึงการใส่เนื้อเรื่องที่ดาร์กและอาจทำให้หลายคนรู้สึกเสียใจนั้นไม่ธรรมดาเลย อีกอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือนักแสดงที่มารับบทในเกมนี้ Ashley Johnson, Troy Baker และ Laura Bailey พวกเขาตีบทแตกกระเจิง สุดท้ายตัวเกมออกแบบเสียงมาแบบ 3D Audio ซึ่งเป็นระบบที่จะถูกนำไปใช้บนเครื่อง PS5 ต่อในอนาคต