แพลตฟอร์ม : Xbox ONE, PlayStation 4, PCคะแนน : 6/10 (FAIR)Star Wars Battlefront II ทำได้ดี ก็คือการทำให้เราได้รู้สึกว่าอยู่ในจักรวาลเดียวของตัวภาพยนต์ โดยตัวเกมภาคนี้จะเป็นเหมือนกับการนำภาคแรกกลับมาทำใหม่ และเสริมโหมดการเล่นคนเดียวให้โดดเด่น รวมไปถึงสิ่งต่างๆ ให้เหมาะสมกับการเล่นมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่นั่นกลับทำให้เกมขาดน้ำหนัก และระบบ convoluted progression ที่ไม่ได้คำนวณเวลาเฉลี่ยการเล่นของผู้เล่นให้ดี ทำให้ความสนุกของตัวเกมลดลงไปอย่างชัดเจน
Star Wars ทั้งสิ้น โดยทั้งโหมดออนไลน์ และโหมดเล่นคนเดียว ได้เข้าไปขยายฉากหลังของตัวภาพยนต์ให้กว้างกว่าเดิม ผ่านความหลากหลายของตัวฉากที่ปรากฎอยู่ในเกม ซึ่งนั่นรวมไปถึงฉากในโหมดเนื้อเรื่อง และ 14 ฉากในโหมด multiplayer ที่จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านของจินตนาการ และช่วงเวลา
Battlefront ในภาคแรก โดยเฉพาะโหมดเนื้อเรื่องคนเดียว ที่จะเป็นเรื่องราวที่ตั้งอยู่ในช่วงเวลา Galactic Empire และ Return of the Jedi นอกจากนี้มันยังเป็นตัวเกมที่หว่านเมล็ดการกำเนิดของ First Order ใน The Force Awakens ในตัวเกมเราจะได้รับบทเป็น Iden Versio ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของอิมพีเรียลชุด Inferno Squad โดยปกติเธอมีภารกิจในการบุกทำลายเหล่า Rebel forces และอีกหลายๆ งาน แต่หลังจากที่ Death Star โดนทำลายเป็นครั้งที่ 2 ความรักที่มีต่อฝั่ง Empire ก็ถูกทดสอบ เมื่อกองกำลัง Imperial army ต้องใช้มาตรการที่รุนแรง เพื่อชิงอนาคตของฝ่ายตนกลับมา
Iden Versio เราจะได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในตัวของเธอเอง แต่ที่ทำให้บทของเนื้อเรื่องในตัวเกมแย่ลงก็คือการจบแบบรออัพเดทในอนาคต โดยในบทนี้แสดงให้เห็นกันถึงการปะทะกันเแงในฝ่าย Empire ซึ่งนั่นช่วยให้เราสามารถเห็นถึงบรรยากาศที่ไม่มี Vardos อยู่ได้อย่างชัดเจน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกประทับใจไปกับการเดินทางของตัวละครแต่อย่างใด
Arcade ที่เราจะได้สู้กับเหล่า AI ทั้งฝั่งดี และฝั่งเลว ทั้งนี้ถึงมันจะไม่ใช่โหมดสุดพิเศษ แต่มันจะมีภารกิจที่เยอะขึ้น และของรางวัลที่ดีขึ้นตามระดับความยากของตัวเกม มันสามารถสนุกได้อย่างอิสระ จากการลองเหล่าฮีโร่ที่แตกต่าง และจำนวนของศัตรูที่เราสามารถเพิ่มขึ้นมาได้ตามใจชอบของเราเอง ยิ่งไปกว่านั้น โหมด Heroes vs Villains จะเป็นโหมดที่เหล่าแฟนๆ ซีรีย์จะต้องชื่่นชอบ เพราะเราจะได้เลือกเหล่าตัวละครที่ถูกปลดล็อคผ่านการแข่งแบบ 4 Vs 4 แบบเพลินๆ ที่ใครๆ ก็เล่นได้
Battlefront II ก็คือความหลากหลายในการเล่นแบบ multiplayer ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับเหล่าผู้เล่น 40 คนใน Galactic Assault หรือการต่อสู้บนที่ราบสูงใน Blitz and Strike โดยเราสามารถเลือกเล่นได้ตั้งแต่พลทหารทั่วๆ ไป ไปจนถึงวีรษุรุษสงครามอย่าง Luke Skywalker, Rey, Han Solo, และตัวละครเอกในเกมภาคนี้อย่าง Iden Versio ซึ่งการต่อสู้แบบผู้เล่น 40 คนจะถือเป็นการต่อสู้ที่ชุลมุนและรุนแรงเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าความยอดเยี่ยมที่มีมาตั้งแต่ภาคแรกในเรื่องของภาพ และเสียง ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน โดยมันจะทำให้สงครามที่เราจะได้เล่นนั้นมีความตื่นเต้นจนถึงขีดสุดตามเอกลักษณ์ของซีรีย์ Star Wars อย่างแท้จริง ที่หนึ่งกระทำอันกล้าหาญ จะเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนความขัดแย้งในสงคราม
Battle Points ซึ่งเราสามารถใช้เป็นเงินสำหรับซื้อของรางวัลระหว่างการเล่น เช่นการควบคุมเหล่าฮีโร่ หรือยานรบดีๆ ในระหว่างการเล่นได้ ทั้งนี้จากที่ดูแล้ว Galactic Assault น่าจะเป็นโหมดที่เหล่าผู้เล่นทุกคนชื่นชอบเป็นพิเศษ ส่วน Starfighter Assault ที่ได้รับการอัพเกรดก็ถือเป็นที่ยอมรับอย่างดี ในขณะที่การควบคุม และการตอบสนองจะมีความเข้มข้นที่มากขึ้น มันจึงทำให้การขับยานรบในสงครามจักรวาลเป็นอะไรที่ดูรุนแรงมากๆ และไม่มีอะไรที่จะตื่นเต้นได้เท่ากับการขับ A-Wing บินผ่านช่องแคบ และสังหารศัตรูอย่างแน่นอน
Star Cards โดยมันจะทำให้ตัวละครของเรามีค่าสเตตัสที่ดีขึ้น เพิ่มโบนัส หรือจัดการศัตรูต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม และยิ่งเราใช้ Star Cards กับตัวละครที่เฉพาะเจาะจง เลเวลโดยรวมของตัวละครตัวนั้นก็จะยิ่งสูงขึ้น ทั้งนี้วิธีการปรับแต่งตัวละครของเราค่อนข้างทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และตัวเกมก็เลือกที่จะให้เราเห็นสิ่งที่จะเปลี่ยนไปอย่างพอดี หลังจบเกมเราจะได้แต้มเพื่อนำไปซื้อ loot crates สำหรับเปิดสุ่ม Star Cards ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา และประเด็นแง่ลบของตัวเกมเป็นอย่างมาก
loot crates ทำให้ระบบทั้งเกมขาดสมดุล ซึ่งเป็นปัญหาในด้านการปลดล็อก รวมไปถึงรายได้จากการเปิด loot crates โดยการสุ่มจะสุ่มตั้งแต่อาวุธ ทรัพยากร ของปรับแต่ง Star Cards และของอัพเกรดต่างๆ ซึ่งการอัพเกรด Star Cards เราสามารถทำด้วยตนเองผ่านการคราฟ โดยการคราฟระดับ Star Cards จะเปลี่ยนไปตามระดับที่แตกต่างกัน ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ ของที่ใช้ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งการโฟกัสไปที่ตัวละคร รวมไปถึงสายอาชีพที่เราชอบก็ยังไม่เพียงพอต่อการเล่นของเรา
loot crates เป็นหลัก ซึ่งมันก็ยากพอสมควรที่มันจะสุ่มออกมาตามแบบที่เราต้องการ หรือปลดล็อคตัวละครหรือสายอาชีพที่เราต้องการได้ในทันทีทันใด ดังนั้นเราจึงต้องเล่นสาย Heavy หรือ Assault เยอะเป็นอย่างมาก ก่อนจะใช้โชคในการเปิดเอาตัวละคร หรือสิ่งที่เราต้องการออกมาได้
loot crates เหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ระบบของตัวเกมดูย่ำแย่ลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งเมนูของเกมก็ค่อนข้างยุ่งยากผ่านระบบแจ้งเตือนที่จะมอบของรางวัลให้เราเมื่อเราออกจากการเล่นโหมด multiplayer อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันจะทำการซ่อนข้อมูลที่สำคัญอย่างอันดับผู้เล่น และข้อมูลของสายอาชีพ
Battlefront II ทำนั้นไม่ต่างไปจากการทำเกม free-to-play เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเกมเกมนี้ล้มเหลวไปในทันที เพราะมันส่งผลต่อการเล่นเกมส่วนหลักเป็นอย่างมาก ในขณะที่การเล่าเรื่องของตัวเกมถูกแก้ไข และทำลายปัญหาที่เกิดขึ้น Battlefront ภาคแรกไปได้ ความยอดเยี่ยมของตัวเกมสามารถทำให้เราตื่นเต้นได้อย่างน่าทึ่ง แต่ด้วยสิ่งที่ Battlefront II สร้างขึ้นมา มันก็ยากที่จะผ่านไปได้โดยง่าย
