รีวิว Call Of Duty: Modern Warfare

Modern Warfare เป็นซีรีส์สงครามที่พาเรามายังยุคสมัยใหม่อยู่เสมอๆ เมื่อสงคราม และการรบสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา มันทำให้เราต้องเลือกว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ถูกต้อง หรือสิ่งไหนคือสิ่งที่ต้องทำ โดยตลอดโหมดเนื้อเรื่องของ Call of Duty: Modern Warfare ตัวเกมได้ทำการดำเนินเรื่องราวโดยหยิบเอาอาวุธเคมีขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญ รวมไปถึงสงครามที่สามารถแสดงออกมาให้เห็นผ่านทางภารกิจต่างๆ ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน Modern Warfare เป็นการหยิบตัวเกมเก่าๆ มาปรับเปลี่ยน และแสดงลวดลายใหม่ๆ ออกมา มันเป็นเกมที่มีเรื่องราวที่ดี และการเล่นรูปแบบ Multiplayer ที่แข็งแกร่ง

ในโหมดเนื้อเรื่อง มีครั้งหนึ่งเราจะได้รับบทเป็น Farah เด็กสาวในประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังเกิดสงครามขึ้นอยู่ ในขณะที่เธอกำลังซ่อนตัว จากทั้งทางผู้ก่อการร้ายชาวรัสเซีย และกลุ่มก๊าซที่อันตราย ในการหลบหนีเราจะต้องฆ่าผู้ชายสองคนด้วยตัวของเราเอง แต่เรื่องราวเล่าย้อนหลังนี้ จะเชื่อมโยงกับเรื่องราวในปัจจุบัน ว่าทำไม Farah ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ถึงปฏิเสธที่จะใช้อาวุธเคมี หรือเชื่อมสัมพันธ์กับทุกคน ในหลายๆ ครั้ง Farah เป็นเหมือนเข็มทิศด้านศีลธรรมใน Modern Warfare

มีตัวละครหลักไม่กี่ตัวเท่านั้นใน Modern Warfare ที่เราจะได้เล่น หรือสวมบทบาท ประกอบไปด้วย Kyle Garrick จาก UK, Alex, Echo 3-1 จาก American, Farah และ Captain Price ตัวละครอีกหนึ่งตัวซึ่งมาจาก Modern Warfare ภาคดั้งเดิม โดยทุกตัวละครที่กล่าวมานี้ล้วนมีปัญหาเป็นของตนเอง โดยในช่วงต้น เพราะ Captain Price เราจึงอยู่ในหมู่ที่ดีที่สุด เราจะต้องทำตามคำแนะนำของ Price เพื่อช่วยชีวิตผู้คนจากผู้ก่อการร้ายให้ได้มากที่สุด แต่ก็มีหลายครั้งที่เราต้องทนดูผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่า เพื่อที่จะรอจังหวะสำคัญๆ ต่างๆ

ภารกิจที่กล่าวมา มีทั้งขนาดใหญ่ ไปจนถึงขนาดเล็ก และยังมีภารกิจให้ทำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะการปะทะกันตรงๆ หรือการบุกจู่โจมแบบที่มีแบบแผนในฐานของศัตรู ชี้นำทางผู้หญิงผ่านสถานทูตภายใต้การล้อมจับของกล้องนิรภัย ภารกิจค้นหาสารประกอบในเวลากลางคืน Price จะเป็นผู้แนะนำเราเกี่ยวกับแผนการต่างๆ ที่เราจะต้องทำในแต่ละภารกิจ และให้คำปรึกษาต่างๆ ทำให้ภารกิจเหล่านี้ดูเป็นที่น่าจดจำเป็นอย่างมาก ในขณะที่ภารกิจของ Alex ไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับตัวเกมเพลย์ มันชวนให้เรานึกถึงภารกิจเก่าๆ ในภาคต้นฉบับ แต่ทั้งนี้แม้ว่า Alex จะม่ีความแข็งแกร่งไม่ต่างไปจาก Farah แต่เขาก็ยังเลือกที่จะติดตาม Farah อยู่ เพราะเขาเชื่อในตัวของ Farah และทั้ง 2 ก็ให้ความเคารพซึ่งกันและกันอีกด้วย น่าเสียดายที่ Farah ไม่ได้มีบทบาทที่สำคัญมากนัก ในขณะที่เธอเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่สำคัญมากๆ ของ Alex และการดำเนินเรื่องราวภายในเกม เราจะได้เล่นเป็น Farah เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ซึ่งช่วงหลังๆ เราจะจะได้เล่นช่วงย้อนอดีตของ Farah ซึ่งจะได้เห็นการแก้ไขปัญหาของเธอ อย่างไรก็ตาม มันไม่จำเป็นที่ต้องพาเราย้อนอดีตเลย เพราะในภารกิจ Alex ก็ค่อนข้างเคารพ และเชิดชู Farah อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถรู้จัก Farah ได้จากภารกิจต่างๆ ของ Alex และสนุกกว่าการเล่นเป็นตัว Farah เองเสียอีก

ตัวละครหลักทุกตัวล้วนมีบริบท และการตัดสินใจที่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญคือ ตัวละครทุกตัวล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน Farah และ Alex เป็นคนที่มีหลักการ ในขณะที่ Garrick และ Price เป็นตัวขับเคลื่อนผลลัพธ์ Alex จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาจะบอกทันทีว่าสิ่งที่ทำนั้นมันผิดกฎหมาย ซึ่งสำหรับ Alex มันคือคำวิจารย์ ในขณะที่ Price และ Garrick นั้นคือข้อแก้ตัว ตลอดเนื้อเรื่องของตัวเกม จะเกิดความตรึงเครียดขึ้นโดยตลอด ทุกอย่างจะเต็มไปด้วยความคลุมเครือ ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ทุกคนทำในสิ่งที่เห็นสมควร ความรู้สึกในการเล่นจึงดูเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ในท้ายที่สุด Modern Warfare ไม่ได้จบแย่ แต่มันปล่อยให้เราคิดหาคำตอบจากเรื่องราวด้วยตัวของเราเอง

โหมด Multiplayer ของ Modern Warfare เต็มไปด้วยโหมดการเล่นที่หลากหลาย ตัวแมปมีความซับซ้อน มันไม่ใช่เส้นทาง 3 เส้นทางเหมือนเคยๆ แต่ในความซับซ้อนของตัวแมป ก็ยังมีความสมดุลในด้านการเล่นอยู่ ด้านอาวุธที่ติดตัวกับเราก็สามารถปรับแต่งได้เป็นจำนวนมาก มันทำให้เราสร้างสไตล์การเล่นของเราขึ้นมาได้ และต่อให้เจอผู้เล่นที่มีอาวุธเหมือนกัน การตั้งค่าอาวุธนั้นๆ อาจไม่เหมือนกันเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม โหมด Multiplayer ถือเป็นของขึ้นชื่อของซีรีส์ Call Of Duty อยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าโหมดไหนยอดเยี่ยมที่สุดในเกม ก็คงต้องยกให้กับโหมด Realism ซึ่งเปรียบเป็นโหมดที่อยู่ระหว่างกลางของโหมด Core และ Hardcore ในโหมดนี้เราจะตีได้แรงเท่า Hardcore แต่จะฟื้นเลือดได้เหมือนในโหมด Core สิ่งเหล่านี้มันทำให้ตัวเกมมีการรบพุ่งที่สูงขึ้น และไม่เร็วเกินไป นั่นทำให้เสียง และคำพูดของ NPCs มีผลมากๆ กับการเล่น โหมดนี้มันทำให้การเล่นแบบ Hardcore ดูนานขึ้น และสนุกขึ้นกว่าเดิม

โหมด TDM 20 หรือ 10v10 ของโหมด Deathmatch หรือ 6v6 Team Deathmatch มีการปรับเปลี่ยนที่น้อยที่สุด สิ่งที่เปลี่ยนคือตัวแมปที่ใหญ่ และกว้างขึ้น ซึ่งนั่นทำให้การเกิดแล้วกลับเข้าจุดปะทะต่อ ดูนานเกินไป แมปบางแมปยังไม่สมดุล มีฝั่งได้เปรียบ และเสียเปรียบอยู่ สำหรับโหมด Gunfight เรียกได้ว่าตรงข้ามกับ TDM 20 เลย เพราะมันเป็นโหมดแบบ 2v2 ที่ในแต่ละรอบ เราจะมีเพียงชีวิตเดียว แมปค่อนข้างเล็ก มีเส้นทางให้วิ่ง 2 ทาง ในแต่ละเส้นทางสามารถผสานงานกับเพื่อนในอีกเส้นทางได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นการเล่นแบบเริ่มต้นโดยไม่มีอาวุธติดตัว แล้วค่อยไปหาปืนจากในแมปเอาเอง ซึ่งไม่ว่าเวอร์ชั่นไหนก็ตาม มันทำให้ Gunfight เป็นโหมดการเล่นที่สนุกมากๆ

Ground War เป็นโหมดที่จะให้เราไปชิงจุด 5 จุด มันไม่เหมือนกับโหมด TDM 20 เพราะโหมดนี้เมื่อเราตาย เราสามารถฟื้น แล้วไปสู้ต่อได้อย่างรวดเร็ว โดยการเกิดจากจุดที่ทำการเข้าไปยึดได้สำเร็จ ตัวโหมดรองรับการเล่นพร้อมกันสูงถึง 64 ผู้เล่น การแข่งขันอาจนานซักหน่อย เพราะเป็นการแข่งเก็บคะแนนกันของคนทั้ง 2 ทีม นอกจากนี้ยังมีโหมกลางคืนให้เล่น หรือก็คือโหมด NVG โหมดนี้จะทำให้การเล่นตึงเครียดขึ้นมาอีกเล็กน้อย มันเป็นโหมดที่เล่นสนุกเหมือนกับโหมดอื่นๆ ด้วยเอฟเฟ็คของเลเซอร์ที่ยิงมา หรือการใส่ NVG ความแตกต่างเหล่านี้ก็มากพอที่จะทำให้ความรู้สึกในการเล่น แตกต่างจากโหมดการเล่นในตอนกลางวันแล้ว

Spec Ops เป็นโหมดการเล่นแบบ Co-op ที่เราและทีมจะต้องทำภารกิจที่กำหนดให้สำเร็จ ตัวโหมดการเล่นี้ จะให้เรารับบทบาทในการเล่นที่แตกต่างกัน เช๋นเป็นแพทย์ที่คอยช่วยเพื่อนที่ล้มลงเป็นต้น มันเป็นโหมดที่ต้องผสานงานกันเป็นทีม จึงจะสามารถสนุกได้ถึงขีดสุด ตัวโหมดค่อนข้างยาก เพราะศัตรูแทบจะเกิดมาจากทุกทิศทุกทาง และเกือบตลอดเวลา มันเป็นการเล่นที่ยากลำบาก ผลัดชุบกันไปมา และการตายก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย ถึงบ่อยมาก และนั่นเป็นข้อเสียของตัวเกม เพราะแทนที่แต่ละคนจะแสดงบทบาทหน้าที่ของตัวเองออกมา กลับกลายเป็นว่าทุกคนไม่ต่างจากการเป็นแพทย์สนาม ที่คอยฉุดเพื่อนๆ ให้ลุกขึ้นมาอยู่ตลอด

ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว โหมด Survival ที่มีอยู่แค่บนแพลตฟอร์ม PS4 จึงค่อนข้างที่จะสนุกและยอดเยี่ยมกว่ามาก ศัตรูมีมาเป็นเวฟ เป็นรอบ และของรางวัลที่ได้ ยังสามารถนำไปอัปเกรดสิ่งต่างๆ ต่อได้ มีจังหวะให้เราหายใจประมาณ 30 วินาที ต่อรอบ สำหรับเพื่อเตรียมตัวประทะกับศัตรูในเวฟต่อๆ ไป พวกศัตรูเก่งๆ จะปรากฎตัวในเวฟที่เฉพาะเจาะจง นั่นทำให้เรารู้ได้ก่อน และเตรียมตัวเพื่อรอรับศัตรูที่กำลังจะมาถึงได้นั่นเอง