- แพลตฟอร์ม : PS4
- คะแนน : 7/10 (GOOD)
Resident Evil 3 ถูกดัดแปลงจากตัวเกมต้นฉบับไปมากพอสมควร และได้ตัดพวกสถานที่และศัตรที่สำคัญูๆ ไปเกือบหมด ซึ่งถ้าหากเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจนัก แต่สำหรับผู้เล่นที่เล่นเกมเกมนี้มาอย่างช่ำชอง มันก็คงยากที่จะไม่ผิดหวัง อย่างไรก็ตามตัวเกมก็ยังอยู่ภายใต้เงาของ Resident Evil 2 ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ เรื่องราวในตัวเกมยังคงพุ่งเป้าไปที่ Jill Valentine ที่อยากจะหนี้ออกจากเมื่องเพราะ T-Virus และกับอีกหนึ่งตัวละครอย่าง Carlos ที่พุ่งเป้าไปกับการทำลาย Umbrella ตัวเกมภาคนี้เพิ่มความแอ็คชั่นมากขึ้น มาพร้อมด้วยระบบ dodge แก้ปัญหาเรื่องกระสุนไม่พอและซอมบี้จำนวนมากที่ไม่อยากกำจัด
ลไกการเล่นใน Resident Evil 3 ถูกอัปเดทเพิ่มขึ้นจาก Resident Evil 2 เป็นอย่างมาก ตัวเกมยังได้ชื่อเป็นเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด แม้ว่าเราจะพบกับการต่อสู้จำนวนมากก็ตาม อาวุธต่างๆ ทำดีขึ้นมาก รวมไปถึงการควบคุมตัวละครอย่าง Valentine เองก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม Raccoon City กลายเป็นฉากหลังของเกมเกมนี้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ตัวเมืองขยายใหญ่มากขึ้น เราสามารถเข้าออกนอกและภายในอาคารหรือย้อนกลับไปยังบางสถานที่เพื่อสำรวจได้ นอกจากนี้ยังมีการหยอดพวก Easter eggs ของเกมตัวต้นฉบับไว้ให้เพียบ เรียกได้ว่าถูกใจเหล่าแฟนเกมทุกคนอย่างแน่นอน
สถานที่อย่างโรงพยาบาลในตัวเกมค่อนข้างทำออกมาได้ดี ภายในเต็มไปด้วยปริศนา ซอมบี้ และสัตว์ประหลาดอีกหลากหลายอย่าง ด้วยความมืดของสถานที่และประตูจำนวนมาก ทำให้เป็นหนึ่งในฉากที่เพิ่มความตื่นเต้นและความกลัวให้เราได้อย่างแท้จริง Carlos เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เราจะได้ควบคุมในตัวเกมเกมนี้ เขาเป็นตัวเอกที่ได้รับความนิยม มาพร้อมกับไรเฟิลจู่โจมที่สามารถต่อกรกับพวกซอมบี้ได้เป็นฝูง
น่าเสียดาย แม้ตัวเกมจะทำออกมาดี แต่การตัดหลายๆ สถานที่และบอสบางตัวออกไป มันถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ
การปะทะกับ Nemesis ไม่ได้เป็นไปตามแบบที่เราคิด ในตอนแรกเราอาจคิดว่า Nemesis นั้นน่าจะเหมือน Mr X ที่จะเดินไล่ตามเราไปไหนมาไหนโดยตลอด แต่สำหรับ Nemesis เราจะพบมันเป็นด่านๆ หรือในบางเหตุการณ์มากกว่า เราจะเจอมันช่วง quick-time events ช่วงจังหวะที่ตัวเกมให้เราวิ่งหนีการไล่ล่า และกับการต่อสู้กับบอสเท่านั้น มันน่าตื่นเต้นนะ แต่มันจะไม่เหมือน Mr X ที่คอยตามติดหลังเราอยู่ตลอด กลายเป็นว่าตัวเกมลดความกดดันในส่วนนี้ไปเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัวเกมยังเล่นจบค่อนข้างเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งด้วยประสบการณ์การเล่นที่น้อยลง ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเกมมันสั้นไปจริงๆ
Resident Evil Resistance คือโหมดการเล่นที่เอาใส่เข้ามาเพื่อทดแทนเวลาที่หายไป ตัวเกมทำออกมาได้ดี โหมด 4v1 เป็นอะไรที่สนุก แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นฝ่ายหนี อีกฝั่งเป็นผู้บงการที่จะต้องคอยวางกับดักเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้หลบหนีหนีออกไปได้ ข้อเสียของโหมดนี้คือฝั่งผู้บงการนั้นมีเกมเพลย์ที่สนุกมาก สนุกจนคนต้องแย่งกันเล่นนั่นแหละ
ในท้ายที่สุด Resident Evil 3 เป็นเกมที่ยกกลับมาทำใหม่ได้ดี โมเดลตัวละครต่างๆ ดูโดดเด่นเป็นที่จดจำ สภาพแวดล้อมต่างๆ มีรายละเอียดความซับซ้อนที่น่าสนใจ Nemesis มีความหลากหลาย มันอึดและทรงพลังอย่างที่เราเชื่อ เป็นหนึ่งใน Tyrant ที่น่าจดจำมากที่สุด น่าเสียดายการลดทอนตัวเกมลง ทำให้ตัวเกมจบเร็วขึ้นมากจนเรารูสึกว่าตัวเกมควรมีอะไรเพิ่มอีกซักหน่อย