รีวิว Need For Speed Heat

การเหยีบคันเร่งแข็งขันใน Palm City คือทั้งหมดทั้งมวลของการหาเงิน และสร้างชื่อเสียง ในระหว่างวัน มันเต็มไปด้วยรายการแข่งขันมากมาย ที่ปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเงินรางวัลที่รอเราอยู่หลังเส้นชัย แต่ในเวลากลางคืน ทุกพื้นที่ของถนน มันจะเต็มไปด้วยการเหยียบคันเร่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีตำรวจเปิดเสียงไซเรนมากมายรอวิ่งกระทืบเราอยู่ สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ Need for Speed ​​Heat แตกต่างจากตัวเกมภาคก่อนๆ มันตัดส่วนที่ไม่สำคัญหลายอย่างออกไป แล้วจึงโฟกัสเพียงแต่ส่วนที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของตัวเกมที่เรียกว่า Need For Speed เท่านั้น

กล่าวได้ว่า Need For Speed Heat แทบจะมองเรื่องราว หรือเนื้อเรื่องของตัวเกม รองลงมาจากการที่จะให้เราได้บิดพวงมาลัย และเหยียบคันเร่งให้มิด บนรถของเราเอง ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ภาพลักษณ์ ไปจนถึงเสียงตัวเครื่อง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเกมจะไม่มีเนื้อเรื่องเลย โดยจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความคดโกงของพวกตำรวจ และทีมแข่งรถที่ค่อนข้างจริง มันเต็มไปด้วยบทสนทนาที่ซ้ำซาก ภารกิจหลักๆ เราจะได้เห็นการพูดคุยไปมาของตัวละคร แต่อะไรที่ไม่เกี่ยวกับแกนหลักของเนื้อเรื่องมากๆ มันจะกลายเป็นเสียงพูด ที่อยู่ในพื้นหลังของเสียงภายในเกมเท่านั้น

เวลาที่ต่างกัน ก็ทำให้เรามองบรรยากาศที่ต่างกันไปด้วย โดยในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกการแข่งขันเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย มันมีบรรยากาศที่จะทำให้เรารู้สึกถึงความสบายๆ และเป็นกันเอง มันมีทุกเครื่องหมายบอกทางแก่เราตลอดเส้นทาง โดยสิ่งที่เราต้องคิด คือเราจะเหยียบคันเร่งยังไง ถึงจะชนะคู่แข่งได้เท่านั้น ในทางกลับกัน ช่วงเวลากลางคืน มันคือความเสี่ยง ที่สุดแสนจะอันตราย เราจะรู้สึกถึงความอึดอัด กดดัน และภัยคุกคามที่เรียกว่าตำรวจ ก็คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราต้องวิตก และกังวลอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งเราฝ่าสงครามช่วงกลางดึก และปลดล็อคตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น พวกตำรวจในเมืองนี้ก็จะยิ่งโหดขึ้นตาม เราจะหนีพวกเขาได้ จนกว่าเราจะสามารถขับรถของเราไปยังบ้านที่ปลอดภัยได้เท่านั้น พูดแล้วอาจเหมือนง่าย แต่ผมของบอกเลย ว่ามันยากมาก เพราะถ้าตำรวจสามารถหยุดรถเราได้ สัญลักษณ์ว่าเราจะถูกจับ จะปรากฎขึ้นมา และจะไม่หายไปแม้ว่าเราจะขับรถหนีออกมาแล้วก็ตาม และอีกหลายๆ อย่างที่เราจะรู้สึกว่าตำรวจในเกมนี้มันช่างโหดร้าย และเอาเปรียบเราซะเสียเหลือเกิน

Need For Speed Heat จะมอบความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมให้แก่เราโดยสมบูรณ์ ในขณะเราเหยียบคันเร่ง และรถกำลังพุ่งไปด้วยความเร็วที่สูง มันจะมอบบรรยากาศ แสงสีที่งดงาม รุนแรง และสมจริงให้แก่เรา ทั้งนี้การเปลี่ยนรถจากอีกคัน ไปสู่อีกคันจะไม่มีอะไรแตกต่างกันนัก นอกจากอัตราเร่ง และความเร็วเท่านั้น ตัวเกมดริฟท์ได้ยากขึ้น แทนที่จะเหยียบแบกเพื่อดริฟท์ ตัวเกมจะให้เราปล่อยคันเร่งด้วย ไม่งั้นรถเราจะไม่ดริฟต์ มันคือความสมจริง แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับการเล่นในช่วงต้น โชคดีที่ทีมพัฒนาเขาเข้าใจ และเตรียมออปชั่นให้เราปรับเปลี่ยนการควบคุมได้ในทันที และนั่นจึงทำให้การดริฟท์เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ ในเกมเกมนี้

ตัวเกมมีอีเวนท์บางอย่าง ที่เราต้องมีอุปกรณ์แต่งรถที่เหมาะสมด้วย ถึงจะสามารถเข้สร่วมได้ ทั้งนี้ตัวเกมมีระบบอัปเกรดรถ หรือที่เราเรียกว่าระบบแต่งรถที่ค่อนข้างอิสระ ไม่จำกัดว่าอุปกรณ์นี้จะใช้กับรถรุ่นนี้เท่านั้น เพราะมันจะสามารถหยิบมาใช้ได้กับรถทุกรุ่น โดยที่อุปกรณ์ทุกชิ้น จะมีราคาที่ไม่สูงมากนัก และจะปลดล็อคอุปกรณ์ใหม่ๆ จากค่าชื่อเสียงของเรา