[Review] รีวิวเกม Shin Megami Tensei V: Vengeance

Shin Megami Tensei V: Vengeance เป็นเวอร์ชันที่ถูกขยายของเกมต้นฉบับที่มีการเพิ่มเติมเนื้อเรื่องใหม่โดยมีการแนะนำฝ่าย Qadištu เข้ามาในเรื่องราว เกมได้ถูกประกาศให้วางจำหน่ายใหม่ในชื่อ Shin Megami Tensei V: Vengeance ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2024 สำหรับแพลตฟอร์ม Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5, Windows, Xbox One และ Xbox Series X/S.

Shin Megami Tensei V: Vengeance เป็นการปรับปรุงและขยายภาคของเกมเดิมที่เคยปล่อยให้เล่นบน Switch มาก่อน โดยเวอร์ชันใหม่นี้เป็น multiplatform ทำให้เกมสามารถทำงานที่ความลื่นไหลมากขึ้นที่ 60fps ในขณะที่เวอร์ชัน Switch ยังคงมีปัญหาในเรื่องของการทำงานที่ช้าลงเมื่อมีการกระทำมากในสภาพแวดล้อมที่ใหญ่และการต่อสู้ แต่ในเวอร์ชัน PS5 ที่รีวิวไปแล้วนั้น ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขไปแล้ว

ในเรื่องของภาพกราฟิก Vengeance มีความคล้ายคลึงกับเกมเดิม แม้จะขาดรายละเอียดที่ซับซ้อนเหมือนกับเครื่องเล่นเกมรุ่นปัจจุบัน แต่ความสวยงามของภาพออกแบบมีคุณภาพสูง ซึ่งเต็มไปด้วยทูตสวรรค์และเทพีสวยงาม ประดิษฐ์ปราสาทที่น่าสงสัยและโลกอื่น ๆ ที่ล่องลอยอันลึกลับ

การเพิ่มเสริมที่สำคัญใน Vengeance คือ Canon of Vengeance ซึ่งเป็นเส้นเรื่องใหม่ที่คุณสามารถเลือกตามตั้งแต่ต้นเกมได้ มีการเพิ่มตัวละครเสริมในระหว่างเรื่องราว เช่น Yoko Hiromine และ Qadištu ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้นและช่วยกระตุ้นเรื่องราวให้ไม่ช้าขึ้นจากเดิม

ในเรื่องของการบริหารงานเพิ่มขึ้นใน Vengeance, มีการปรับปรุงแผนที่ในเกมที่ละเอียดมากขึ้นจากเดิม ทำให้ผู้เล่นสามารถมองมุมมองภาพรวมของพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ระบบ Magetsu Rails ยังช่วยให้การเดินทางระหว่างพื้นที่เป็นเรื่องสะดวกมากขึ้นด้วยการเปิดช่องทางเดินระหว่างพื้นที่ที่ต่างกันอย่างรวดเร็ว

การเพิ่ม NPC demon companions ที่ช่วยค้นพบไอเท็มและพื้นที่ที่น่าสนใจบนแผนที่ใน Vengeance ทำให้ผู้เล่นสามารถเก็บไอเท็มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Miracles ให้กับ Nahobino และความสามารถใหม่ในการต่อสู้ที่ช่วยให้กลายเป็นเกมที่มีความยากน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับเกมเดิม

การต่อสู้ในเกมเป็นระบบเทิร์นเบส โดยผู้เล่นสามารถเรียกใช้ปีศาจในการต่อสู้และต้องทำการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งและความอ่อนแอของปีศาจเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม

Shin Megami Tensei V: Vengeance เป็นเกมที่มีความคล้ายคลึงกับเกม Persona และเกมภาคอื่น ๆ ของซีรีส์ Shin Megami Tensei โดยมีการเดินทางและการตัดสินใจที่สำคัญเป็นจุดเด่นหลัก