รีวิว My Hero One's Justice 2

My Hero One’s Justice 2 เป็นเกมต่อสู้ภาคที่ 2 จากซีรีส์การ์ตูนเรื่อง My Hero Academia และตามชื่อ ตัวเกมภาคนี้นำตัวเกมภาคก่อนหน้ามาต่อยอดให้ใหญ่และกว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่มันก็ค่อนข้างจืดชืดมากทีเดียว เมื่อนำตัวเกมไปเทียบกับตัวเกมภาคก่อน ในตัวเกมมีโหมดการเล่นให้เราได้เล่นค่อนข้างหลากหลาย อย่างโหมด Story ที่จะโฟกัสไปยังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการ์ตูนเป็นหลัก โดยจะมีศูนย์กลางอยู่ที่เหตุการณ์ระหว่าง Provisional Hero License Exam และ Shie Hassaikai ซึ่งตัวเกมมีข้อดีที่ทำเนื้อหาออกมาให้เราได้สัมผัสได้ในระดับนึง และมอบมุมมองในตัวละครใหม่ๆ ให้แก่เรา โดยให้เรารับบทเป็นตัวละครฝั่งวายร้ายได้ น่าเสียดายที่ระบบบาลานซ์ความยากของตัวเกมค่อนข้างก้าวกระโดดไปเสียหน่อย โดยเฉพาะช่วงของ Shie Hassaikai ที่ตัวเกมยากขึ้นมาก แม้จะสมเหตุสมผลเพราะฝั่งตรงข้ามมีพลังที่มากกว่าก็ตาม

ในช่วงต้นของเกม ตัวเกมมีการสอนเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมต่างๆ เป็นอย่างดี และถ้าหยุดเกมชั่วคราว เราก็สามารถดูรายละเอียดการควบคุมของตัวละครที่เราใช้อยู่ได้ ตัวเกมมีระบบชาร์จพลังสำหรับใช้ท่าพิเศษที่ชื่อว่าเกจ Plus Ultra ซึ่งสามารถเก็บได้ 3 ระดับ โดยเราสามารถใช้ท่าพิเศษของทั้งตัวละครหลักเรา หรือตัวละครผู้ช่วยทั้ง 2 ตัวของเราได้ทั้งหมด แต่ตัวเกมเน้นให้เรากดท่าให้แม่นยำมากๆ จนบางครั้งการกดท่าจึงจำเป็นต้องกะจังหวะเป็นพิเศษมากเกินไปจนน่ารำคาญ รวมไปถึงการจับคู่กับตัวละครบางคู่ ยังทำออกมาได้โกงมากๆ อีกด้วย

น่าเสียดายที่จุดเด่นหลักของตัวเกม ซึ่งอยู่ที่เหล่าตัวละครต่างๆ มีให้เราได้เลือกเล่นอย่างหลากหลายนั้นค่อนข้างแบน ตัวละครบางตัวเล่นสนุกกว่าตัวละครบางตัวอย่างเด่นชัด แต่ส่วนใหญ่เราแทบจะบอกไม่ได้เลย ว่าตัวละครแต่ละตัวแตกต่างกันอย่างไร ยกเว้นพวกบุคลิก หรือนิสัยต่างๆ ที่เราสามารถรับรู้ และรู้สึกได้ทันทีที่เห็น โหมด Free battle และ Network จะให้เราสามารถต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ทั้งแบบ Local และ Online น่าเสียดายที่ตัวละครในเกมมีบาลานซ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นเราก็จะเจอตัวละครแค่แบบเดิมๆ ซ้ำไปมาแค่เท่านั้นเอง นอกจากนี้ตัวเกมยังมีโหมด Arcade และ Training สำหรับให้เราได้ฝึกความสามารถของตนเองได้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ในตัวโหมดเรายังได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ที่ไม่เคยได้เห็นจากในเนื้อเรื่องอีกด้วย

ตัวเกมมีจุดเสียใหญ่ๆ ตรงเนื้อเรื่องที่ยาวยืดยาด และน่าเบื่อ แต่ตัวเกมมีจุดเด่นที่งานกราฟฟิกสไตล์การ์ตูนอนิเมะ และการต่อสู้ที่สามารถทำลายสิ้งแวดล้อมได้ นั่นทำให้ตัวเกมให้ความรู้สึกที่สมบูรณ์ของการต่อสู้ โดยในทุกการต่อสู้เราจะได้รับเหรียญฮีโร่ ซึ่งเราสามารถนำไปใช้ เพื่อซื้อไอเทม สอดแนม หรือพวกคอสตูมต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ แต่นอกจากจะซื้อแล้ว ตัวไอเทม หรืออุปกรณ์เหล่านี้ เรายังสามารถปลดล็อคได้เองอีกด้วย ซึ่งจะปลดล็อคได้จากทั้งโหมดต่อสู้ทั่วไป เนื้อเรื่อง หรือภารกิจ นอกจากนี้เรายังสามารถสร้างฮีโร่ของเราเองขึ้นมาได้อีกต่างหาก