แพลตฟอร์ม : NSคะแนน : 4/10 (Poor) เกมมือถือและเกมคอนโซลนั้นมีความต่างกันมาก ทำให้เกมมือถือบางเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างGranblue Fantasy และ Azur Lane เกมจากมือถือลงให้กับเครื่องคอนโซลและบน PC ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชั่นมือถือไปเป็นคนละเกม ผู้เล่นบนคอนโซลนั้นต้องการความลึกของเกมและไม่ชอบระบบซื้อของในเกมด้วยเงินจริงเท่าไหร่นัก ทำให้ทั้ง Granblue Fantasy เปลี่ยนรูปแบบเกมไปเป็นไฟต์ติ้ง RPG และ Azur Lane กลายเป็นเกมแนวยิงแทนและประสบความสำเร็จทั้งสองเกม
แต่ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาอย่าง Netmarble ไม่ได้ทำการบ้านมาดีพอ กับเกม Seven Knight: Time Wanderer ภาคแยกของเกมมือถือชื่อดังอย่าง Seven Knight ที่ลงบนเครื่อง Nintendo Switch แต่ตัวเกมกลับไม่นำประสิทธิภาพของเครื่องสวิตช์มาใช้ให้เต็มที่ ทั้งๆ ที่เกมแนว RPG หลายๆ เกมดีๆ ก็ลงให้กับเครื่องนี้ ทำให้เราไม่รู้ว่าเกมนี้สร้างมาเพื่อผู้เล่นแบบไหนกันแน่ เกมมือถือก็ไม่ใช่ คอนโซลก็ไม่เชิง
ใน Seven Knight: Time Wanderer เราจะจะได้รับบทเป็น วาเนสซ่า เด็กสาวที่เข้าไปยังห้องเก็บสมบัติของตระกูล แต่ดันถูกดูดเข้าไปมิติที่เรียกว่า The Abyss มิติที่เหนือกาลเวลา และในมิตินี้เธอก็ได้พบว่าตัวเองได้กลายเป็นสาวเต็มตัว ซึ่งเธอก็ได้พบกับนาฬิกาทรายพูดได้นามว่า แซนดี้ ที่จะช่วยเธอผ่านห้วงลึกของ Abyss และช่วยให้เธอเก็บรวบรวบคริสตัลแห่งกาลเวลาเพื่อฟื้นฟูร่างกายของแซนดี้ และส่งวาเนสซ่ากลับไปยังมิติของเธอ
อนิเมชั่นคัตซีนฉากเปิดทำออกมาได้ดี การนำเสนองานศิลป์ในสไตล์แบบวาดด้วยมือ และเมื่อคุณเข้าสู่เกมให้เล่น ถ้าหากใครเคยเล่น Seven Knight เวอร์ชั่นมือถือมาก่อนก็จะคุ้นเคยอย่างดีด้วยระบบที่เหมือนกันตอนเริ่ม และโมเดลตัวละครแบบ 3D ที่รายละเอียดน้อย(ความคมชัดแย่มาก เห็นขอบรอยหยักของตัวละครชัด) ตัดสลับกับฉากพูดที่มีภาพตัวละครแบบ 2D สลับกัน แต่พอมามองดูตัวละครทั้งเวอร์ชั่น 2D และ 3D คุณภาพกลับต่างกันจนทำให้เกิดความน่าหงุดหงิด
ในโลกของเกมที่มีการสำรวจ เราจะได้พบกับโลกที่น่าสนใจ พบกับตัวละครต่าง และค้นหาความลับ แต่เกมนี้กลับนำเสนอมันมาในรูปแบบของการเดินคล้ายๆ กับบอร์ดเกม เดินเป็นช่องๆ ที่มีฉากหลังเป็นภาพ 2D ที่คุณภาพแย่ พอเราเดินไปเจอสมบัติก็เป็นไอคอนรูปสมบัติออกมา ทางไปต่อของเราก็คือต้องเดินไปหาไอคอนที่เขียนว่า NEXT ที่จะเป็นเนื้อเรื่องหลักให้เล่น เมื่อเราเล่นไปถึงจุดหนึ่งแผนที่ก็จะไม่เป็นเส้นตรง แต่จะมีทางแยกให้สำรวจบ้าง เราอาจจะไปเจอสมบัติหรือเควสที่ซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจอะไรเลย แถมบางพื้นที่ เราเดินไปในแต่ละช่อง ก็จะตัดเข้าการต่อสู้แบบทุกช่องจนกว่าเราจะเดินลงช่องที่ถูกต้อง ถึงจะไม่มีมอนส์เตอร์โจมตี นั่นยิ่งทำให้เกมนี้รู้สึกน่าเบื่อ
ระบบต่อสู้นั้นก็น่าสนใจและโดดเด่นขึ้นมาบ้าง ด้วยการผสมผสานระหว่างความเป็น Turn Base และ Real Time โดยเราสามารถเลือกฮีโร่ของเราเพื่อใช้สกิลได้ก่อนที่หลอดเวลาจะเต็ม ไม่อย่างนั้นเราก็จะเสียเทิร์นนั้นไป เมื่อฮีโร่ใช้สกิลไปแล้วก็จะติดคูลดาวน์ที่นับตามเวลาจริงหลังกดสกิลแม้ว่าตัวละครกำลังออกท่าปล่อยสกิลอยู่ ซึ่งแต่ละสกิลนั้นก็จะมีธาตุแตกต่างกันไป 4 ธาตุ ซึ่งก็เป็นระบบแพ้ทางธาตุที่เจอในหลายๆ เกม ถ้าใช้ธาตุชนะทางก็จะดึงประสิทธิภาพของสกิลนั้นๆ ออกมาได้ดีในการต่อสู้
ไอเดียของระบบนี้ดี แต่การนำเสนอค่อนข้างแปลกไปสักหน่อย แต่ละตัวละครก็จะมีอยู่ 2 สกิลหลัก และ 1 การโจมตีปกติ ด้วยความที่มีสกิลให้เลือกใช้น้อย ทำให้การต่อสู้น่าเบื่อเร็วมาก โดยเฉพาะถ้าเรามีตัวละครธาตุเหมือนกัน แถมระบบ Time Gauge ก็ยังเร็วเกินไป ใช้เวลาประมาณ 2-3 วิให้ตัดสินใจ ทำให้เราเลือกวางแผนการออกสกิลได้ไม่มาก เราสามารถกดเลือกใช้สกิลล่วงหน้าใส่คิวไว้ได้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องกดป้องกัน หรือโจมตี หรือรักษาดี จนกว่าที่ตัวเราจะโดนแอคชั่นอะไรสักอย่างจากศัตรู มันให้ความรู้สึกว่าตัวเกมมีการออกแอ็คชั่นก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกสนุกเลย
ความแย่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะถูกมองข้ามไปถ้าหากว่าเกมนี้ มีเนื้อเรื่องที่ดี แต่กลับกันเลย Seven Knight: Time Wanderer ในด้านเนื้อเรื่องก็แย่พอๆ กับตัวเกมเอง ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวโยงกันบ้างกับเวอร์ชั่นมือถือ ถ้าหากใครไม่ได้เล่นมาก่อนก็จะไม่รู้พื้นหลังของแต่ละตัวละคร ความสัมพันธ์เลย ทำให้การดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ทำเอาผู้เล่นงงได้ง่ายๆ เช่นตัวละครนี้พูดกับเราแบบนี้หมายความว่าอย่างไร แล้วทำไมเราถึงทำแบบนี้กับตัวละครนั้น แถมเบื้องลึกเบื้องหลัง ประวัติของตัวละครแต่ละตัวก็นำเสนอออกมาได้เรียบเฉย ไร้มิติ และไม่น่าสนใจเลย
แต่ตัวเกมก็ยังมีดีอยู่บ้าง ด้วยระบบ Ego Stone ที่จะปลดล็อคหลังจากเราเล่นผ่านพื้นที่แรกของเกม โดยมันทำให้เราได้คุยกับตัวละครในเกมสั้นๆ เพื่อแลกกับการ์ด Arcana ซึ่งบ่อยครั้งที่เราจะได้คุยกับตัวละครใหม่ๆ นอกจาเนื้อเรื่องหลัก แต่ตัวละครที่โผล่มา ดันโผล่มาให้เห็นหน้าเพียงครั้งเดียวแล้วหายไปเลย
ความรู้สึกหลังจากได้เล่น Seven Knight: Time Wanderer มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเกมยังไม่เสร็จดีเลยด้วยซ้ำ ระบบ เนื้อเรื่องต่างๆ เหมือนถูกยัดใส่เข้ามาแบบลวกๆ ทำให้เกมมันน่าเบื่อ ทั้งการสำรวจฉาก การต่อสู้ที่ซ้ำซาก และการดำเนินเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่พยายามดึงดูดให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับมัน แต่ถ้าหากว่าเคยเล่นเวอร์ชั่นมือถือมาก่อนก็อาจจะชอบที่ได้เห็นเกมนี้มาโลดแล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ก็เป็นได้ แต่ขอบอกเลยถ้าหากว่า Netmarble ต้องการกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แฟนเกม Seven Knight ล่ะก็ พวกเขาทำพลาดอย่างแรง
Seven Knight: Time Wanderer เป็นเกมที่ค่อนข้างน่าเบื่อและไม่ค่อยน่าสนใจ และไม่แนะนำให้เล่นถ้าหากไม่ใช่แฟนเกมเดนตายของเวอร์ชั่นมือถือ เพราะบนเครื่อง Nintendo Switch ยังมีเกม RPG ดีๆ ให้เล่นอีกมากมาย แม้ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมซีรีส์ Seven Knight จริงๆ ก็ยังอยากจะให้เจียดเงินของคุณไปซื้อเกมอื่นน่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มกว่า